วันที่ 6 นั่งเครื่องจากสนามบินเฮโฮไปย่างกุ้ง เที่ยวเจดีย์กลางน้ำเยเลพญาเมืองสิเรียม(ตันลยิน)

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม 2557 (2014) เป็นวันที่ 6 ของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศพม่าของพวกเรานะครับ วันนี้เราจะเดินทางโดยเครื่องบินอีกครั้งนะครับ กับสายการบิน Bagan Air จากสนามบินแฮโฮไปยังสนามบินย่างกุ้งนะครับ ตอนบ่ายก็ชิลๆครับวันนี้ จะไปเจดีย์แหย่แหล่ครับ หรือเจดีย์เมืองสีเรียม (Syriam) หรือตันลยิน (Thanlyin) ครับ ก่อนอื่นก็มาดูวิดีโอการเดินทางของเราคร่าวๆในวันนี้กันนะครับ น้องออดี้เขาทำไว้ รู้สึกว่าจะขี้โม้นิดหนึ่งนะครับ เรื่องนั่งเครื่องเหมือนนั่งรถเมล์ ทำเป็นชิลๆ ขอบอกว่าค่าตั๋วเครื่องบิลแพงมากๆครับ ทำเอาจนไปหลายเดือนกว่าจะใช้หนี้หมด เหอๆๆๆ

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ อย่างที่บอกว่าไฟลท์ Air  Bagan ที่เราจองไว้เกิดการเปลี่ยนแปลงเวลา (เมื่อวานจากพุกามไปแฮโฮ ไฟล์เลื่อนเวลาช้าออกไป) แต่วันนี้ไฟล์ แฮโฮไปย่างกุ้ง ออกเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นชั่วโมงเลย เที่ยวบิน W9 143   19MAY  HEHO(HEH)-YANGON (RGN)  D  0955   A 1105  (เวลาเดิมตอนที่จองออกเวลา 10:25 น.)ครับ เลยต้องตื่นกันเร็วกว่าเดิมอีก

บรรยากาศยามเช้า วิวจากระเบียงห้องของโรงแรมอินเลสตาร์โมเต็ลครับ มีสายหมอกนิดๆ ครับ ถ้ามาช่วงเดือนมกราคงจะหนาวแน่ๆครับ 

โรงแรมรวมอาหารเช้าด้วยนะครับ แต่ก็มีแค่ไข่ดาว ขนมปัง น้ำส้ม ชากาแฟ ผลไม้แค่นั้นครับ สแตนดาร์ดเดียวกันทั้งประเทศเลยครับในโรงแรมระดับนี้ (กินดีที่สุดคือโรงแรมที่ไจก์ถิโยหรือพระธาตุอินทร์แขวนครับ เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านหลังจากนี้) กินอาหารเช้าบนชั้นดาดฟ้าโรงแรมครับ

ให้ดูวิวอีกด้านนะครับที่บอกเมื่อวานว่าเป็นวัด (อย่าดูนายแบบนะครับ)

ให้โรงแรมจองรถให้ครับเมื่อวาน นัดไว้ 7 โมง 15 มารอเราแล้วครับ ตรงเวลาเด๊ะครับ (ราคารถคันนี้ที่โรงแรมหาให้ 25,000 จั๊ตนะครับ ไปสนามบิน ประมาณ 833 บาท เมื่อวานเราโดนฟันไป 35,000 จั๊ตครับ ประมาณ 1166 บาท) 

ชมบรรยากาศข้างทางรถเป็นทุ่งนาครับ แถวนี้ไม่แห้งแล้งเหมือนพุกามครับ เขียวชอุ่มเลย พื่นที่เหมาะแก่การเพาะปลูกครับ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์

ลุงขายไม้กวาด

ผ่านมาสัก 10 นาทีเจอวัดนี้ครับ วัดชเวยันเป ที่ใครๆเขามาถ่ายรูปเณรนั่งริมหน้าต่างครับ

วัดชเวยันเปครับ แต่วันนี้เณรหายครับ หรือว่าเรามาเช้าไปก็ไม่รู้ครับอิๆๆๆๆ

ขึ้นไปไหว้พระขอพรก่อนเดินทางซะหน่อยครับ 

ตรงข้ามวัดชเวยันเป มีแผงขายของที่ระลึกด้วยครับ พระพุทธรูปก็มี

ขับออกมาอีกหน่อยก็เจออะไรเหลืองๆเป็นแนวยาว รู้สึกว่าจะเป็นดอกดาวเรืองนะครับ คือมองไม่ชัดครับ ไกลมาก ได้แค่นี้เองครับ 

สักพักพี่โชเฟอร์แกหยุดรถ เดินออกไปตรงนี้ครับ แผงขายหมาก อ๋อ ไอ้เราก็นึกว่าจอดเติมน้ำมันแบบปั๊มหมุนซะอีก อิๆๆ

40 กว่านาทีก็มาถึงสนามบินแฮโฮอีกแล้วครับ สนามบินเล็กมาก มีอาคารเดียวแค่นี้แหละครับ ก็เข้าไปเช็คอินครับ 

ได้บอร์ดดิ้งพาส (บัตรขึ้นเครื่อง) มาเป็นแบบนี้ครับ วันนี้เจ้าหน้าที่บอกเราว่าเครื่องบินจะเป็นของสายการบิน Asian Wings ครับ เป็นเครือเดียวกันกับ Air Bagan เขาบอกมาแบบนี้แหละครับ เลยคิดว่าน่าจะเป็นโค้ดแชร์สายการบินซึ่งกันและกันครับ และต้องโหลดกระเป๋าเช่นเดิมครับ เพราะเครื่องลำเล็ก

เข้ามาในเกทครับ มีเคาน์เตอร์ขายกาแฟด้วยครับ ห่้องน้ำในเกท ความสะอาดให้ 7 เต็ม 10

สักพักเจ้าหน้าที่ก็จะเรียกให้ขึ้นเครื่องครับ เรียกกับโทรโข่งกันแบบนี้แหละครับ 

พอถึงเวลา เครื่องบินของเราก็มาครับ สายการบิน Asian Wings 

ใช้เวลาบินชั่วโมงนิดๆก็ถึงย่างกุ้งแล้วครับ เที่ยวนี้ไม่ไปแวะที่ไหน บินตรงเลยครับ ชัตเติ้ลบัสรับส่งผู้โดยสารในรันเวย์คันใหม่เอี่ยมอ่องของแอร์บากันมารับเราไปที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าเที่ยวบินภายในประเทศครับ

อาคารผู้โดยสารขาเข้าเที่ยวบินภายในประเทศครับ เข้าไปยินรอกระเป๋าอีกพักใหญ่กว่ากระเป๋าจะมา 

เดินออกมาด้านนอกเจอกับความวุ่นวายของเหล่าแท็กซี่ทั้งหลายที่จะเข้ามาทักทายคุณ

บรรยากาศภายนอกสนามบินย่างกุ้งเที่ยวบินภายในประเทศ

เราพยายามหารถที่นั่งได้ทั้งหมด 5 คนในคันเดียว หายากมากครับ ส่วนใหญ่จะบอกให้ใช้ 2 คัน เราขี้เกียจแยกกันเดินทางเลยยืนยันจะนั่งคันเดียว สุดท้ายได้พ่อหนุ่มคนนี้ครับ ตกลงราคากัน  ตอนแรกเขาบอกว่า 8,000 จั๊ต (266 บาท) ไปโรงแรมแอ๊กก้าเกสท์เฮ้าส์ที่เราจองเอาไว้กับอโกด้า แต่เราต่อเหลือ 7,000 จั๊ต (233 บาท) ที่ต่อรอคานี้ เพราะก่อนหน้านี้มีคนให้ราคานี้แล้ว พ่อหนุ่มคนนี้เลยต้องจำใจพาเราไปแบบเลี่ยงเสียมิได้ ออกมาซักพักอากาศร้อนครับ รถติด บอกให้พี่แกเปิดแอร์ แต่พี่แกบอกว่าราคา 7,000 จั๊ตที่ตกลงไว้จะไม่เปิดแอร์ แต่ถ้าจ่าย 8,000 จั๊ต จะเปิดแอร์ เราก็ด่ามันทั้งคันครับ มึงกวนตีนกูนี่หว่าแบบนี้ โอเค พวกเรายอมทนร้อนครับ อยากเอาชนะมันครับ 555 ทั้งๆที่เทียบเงินไทยก็แค่ 30 บาทนิดๆ แต่อยากเอาชนะครับ ฮามาก กว่าจะถึงเหงื่อท่วมกันเลยทีเดียวครับ ไอ้หนุ่มคนขับรถก็เหงื่อตกพอๆกับเราครับ สมน้ำหน้ามันเพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเจอแท็กซี่กวนบาทาเหมือนผม ก่อนขึ้นรถตกลงราคาและต้องย้ำด้วยว่าแอร์คอนดิชั่น ไม่งั้นอาจโดนมัดมือชกให้จ่ายเพิ่มครับ 

บรรยากาศท้องถนนในย่างกุ้งครับ มีรถคิดเป็นบางช่วงครับ แต่ไม่ติดแบบร้ายแรงเหมือน กทม.บ้านเรา

ตึกสูงๆมีบ้างแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ นั่งมาครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงแรมซะที ทรมานสุดๆ เพราะนั่งเบียดกันมาในความร้อน และอยากเอาชนะคนขับแท็กซี่กวนตรีน และอีกอย่างที่จะบอกคือ แท็กซี่คนนี้พาเรามาส่งผิดที่ด้วยครับ แอ๊กก้าเกสท์เฮาส์มี 2 ที่ครับ แต่อยู่คนละซอยกัน เราเลยต้องเดินถัดไปอีกซอยครับ ก็ได้เช็คอินเรียบร้อย ไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมไว้ให้ครับ เป็นประมาณตึกแถวครับที่นี่ แต่พนักงานพูดอังกฤษเก่งมากๆครับ ถามข้อมูลได้เยอะมาก ตอบได้หมดเลยครับ (ที่นี่เป็นห้องน้ำรวมนะครับ แต่สะอาดดี)

นั่งพักครู่หนึ่งก็อยากไปเที่ยวต่อ เลยให้โรงแรมหารถให้ จะไปเจดีย์กลางน้ำเยเลพญาครับ ที่เมืองสิเรียมหรือเมืองตันลยินครับ ค่ารถ 35,000 จั๊ตครับ (1,166 บาท) 

อยากจะบอกว่ารถที่ย่างกุ้งมีแต่แบบเล็กๆทั้งนั้นเลยครับ หารถตู้ยากครับ ตาโรธเลยอาสาไปนั่งข้างหลังแทน จะได้ไม่ต้องนั่งเบียดกันเหมือนตอนมาจากสนามบิน  (น่าสงสารจริงๆ ) สตาร์ททัวร์ 13:20 น. 

วันที่เรามาย่างกุ้งฝนตกทุกวันเลยครับ แต่ตกปรอยๆ รถพาเราข้ามสะพานนี้ครับ อ่านไม่ออก มหาอะไรสักอย่าง พยายามหัดอ่าน แต่ภาษาพม่ายากมากครับ 

เวลา 14:25 รถพาเรามาถึงท่าเรือที่จะไปเจดีย์เยเลพญาครับ ใช้เวลาจากย่างกุ้งมาที่นี่ก็แค้ 1 ชั่วโมง 15 นาทีครับ (ไม่ไกลมากตอนแรกผมคิดว่ามันจะไกลใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงซะอีก)

กองทัพต้องเดินด่้วยท้องครับ ก็แวะกินร้านนี้เลยครับ ไม่ต้องเดินหาไกล เป็นกับข้าวหลายๆอย่างเลือกมากินกับข้าว เขาจะตักมาให้กินแบบถ้วยเล็กๆ แต่อร่อยมากครับ เนื้อหมูเคี่ยวจนนุ่ม ทั้งทริปพม่าขอยืนยันว่าร้านนี้อร่อยที่สุดแล้วครับ เพราะผมกินได้เยอะที่สุดครับ ที่อื่นกินกันตายจริงๆ 5555

กับข้าวมีหลายอย่างให้เลือกครับ เป็นที่สังเกตเลยว่าคนพม่ามักจะมายืนข้างๆโต๊ะ ดูเรากิน เวลาอะไรหมดจะได้บริการได้อย่างรวดเร็ว แต่เรารู้สึกเขินๆยังไงก็ไม่รู้ครับ เหมือนมีคนจ้องดูเรากินข้างเลยรู้สึกแปลกๆ แต่ก็หิว เลยทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น มื้อนี้ค่าเสียหาย 10,000 จั๊ตครับ (333 บาท ถูกมาก)

กินเสร็จเดินมาที่ท่าน้ำครับ เห็นเจดีย์กลางน้ำเยเลพญาเด่นตระหง่านรายรอบด้วยพื้นน้ำครับ 

เหมาเรือไปกลับ 5,000 จั๊ต (166 บาท)

ถ้าคนพม่าเขาให้นั่งเรือลำเล็กแบบนี้ครับ

เข้ามาก็ไหว้พระครับ

พระอะไรบ้างก็ไม่รู้เยอะไปหมด

แต่ที่ตั้งใจจะมาก็คือมาหาพระอุปคุตครับ 

ฉิ่นตี ด้านหน้าตรงทางเข้าครับ

เจดีย์ด้านหน้าตรงทางเข้าครับ

มีฆ้องด้วยครับ

วิวจากเจดีย์เยเลพญา มองกลับมาฝั่งบนบกครับ

ส่วนที่ยื่นไป ปลายสุดเป็นที่ประดิษฐานพระอุปคุตครับ

ยักษ์เขียวสองตนตรงทางเข้าที่เชื่อว่าถ้าใครเป็นโรคอะไร ลูบหลังยักษ์แล้วเอามาลูบตรงร่างกายเราที่มีปัญหาอาการก็จะหายไปครับ 

ยักษ์เขียวด้านซ้ายครับ 

เราเดินไปสักพักก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าเรายังไม่จ่ายตังค์ค่าเข้าคนละ 2 ดอลลาร์ เลยต้องไปจ่ายตามระเบียบครับ ได้ในเสร็จมาเป็นแบบนี้ครับ

นั่งเรือกลับฝั่งครับ 

ขากลับโชเฟอร์พาเรามาเที่ยววัดหนึ่งชื่อวัด พาราจี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์นี้ครับ 

ต่อมาก็เที่ยวเจดีย์ไจก์ก๊อก (Kyaik Khauk Pagoda) อยู่ไม่ไกลจากวัดพาราจี กับเจดีย์เยเลพญาเท่าไหร่ 

ดินขึ้นมาชมได้ครับ ไม่สูงมาก แต่ก็เหนื่อยพอทน

เจดีย์ไจ๊ก์ก็อกครับ 

ไหว้พระขอพรครับ

แล้วก็ลงไปที่จอดรถ

แผงขายของที่ระลึกก็เยอะครับ 

ฉิ่นตีตรงบันไดทางขึ้นครับ 

ลงมาแล้วคนขับรถหาย

ฉิ่นตีด้านหน้าครับ หลังจากนั้นก็กลับย่างกุ้งครับ ให้โชเฟอร์พาไปจองตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟย่างกุ่ง เพื่อจะไปพะโคะ หรือหงสาวดีพรุ่งนี้ครับ  แต่พอไปถึงปรากฏว่าคนเยอะมากๆครับ ที่สำคัญคือไม่เข้าคิว เราเสียอารมณ์รอ เลยกลับเลยครับ ค่อยมาซื้อพรุ่งนี้เช้าเลยทีเดียวดีกว่า เลยให้พี่แกไปส่งโรงแรม จ่ายทิปพี่แกไป 5,000 จั๊ตครับ เสร็จทริปเวลา 17:30 น. ที่จริงยังมีเวลาเหลือ แต่ขี้เกียจแล้ว พักผ่อนดีกว่าเดินหาอะไรกินข้างถนนแถวๆโรงแรมครับ 

อ่านบทความถัดไป วันที่ 7 นั่งรถไฟจากย่างกุ้งไปหงสาวดี(พะโคะ) หรือบ่ะโก ชมเจดีย์ชเวมอดอว์ นั่งรถบัสไปคินปุนเบสแคมป์เพื่อไปต่อรถขนหมูขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน(ไจ๊ก์ถิโย)

อ่านบทความก่อนหน้า วันที่ 5 เดินทางด้วยเครื่องบิน Air Bagan จากสนามบินหญ่าวอูเมืองพุกามไปสนามบินเฮโฮเพื่อไปทะเลสาบอินเล เหมาเรือท่องทะเลสาบอินเล