สวัสดีครับ พบกับหลวงไข่อีกแล้วในบล็อกนี้หลวงไข่จะพาทุกท่านไปเที่ยวพม่ากันนะครับ พม่าบ้านพี่เมืองน้องและมีความสัมพันธ์กับไทยมาตั้งแต่อดีต แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทางสงครามกกันมากกว่า วันนี้พม่าเปิดประเทศแล้ว ใครๆก็ต้องไปพม่าครับ เดินทางง่ายมากด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งมีให้เราเลือกว่าจะเดินทางไปเมืองไหน ระหว่างมันณฑะเลย์หรือย่างกุ้ง
ช่วงที่แอร์เอเชียมีโปรโมชั่นก็อย่าพลาดการจองนะครับ เดี๋ยวนี้ใครไม่มีบัตรเครดิตก็ซื้อตั๋วแอร์เอเชียได้ด้วยการไปจ่ายเงินกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านได้แล้วด้วยครับ
การเดินทางของผมครั้งนี้ ใช้เวลา 9 วันใน 9 สถานที่และไปครบทุกสถานบูชาสูงสุดของพม่าทั้ง 5 ที่ ครับเริ่มต้นด้วยเมืองมัณฑเลย์ , เมืองโมนยวา, เมืองพุกาม (บ่ะกัน), ทะเลสาบอินเล, ย่างกุ้ง, หงสาวดี, พระธาตุไจ๊ก์ถิโย(พระธาตุอินทร์แขวน) ดูแผนการเดินทางสรุปของพวกผมได้ที่นี่ครับ
ส่วนสถานบูชาสูงสุดขอองพม่าที่กล่าวไว้แแต่ต้นก็มี
1. พระมหามัยมุนี เมืองมัณฑะเลย์
2. เจดีย์ชเวสิกองเมืองพุกาม
3. เจดีย์ชเวดากองเมืองย่างกุ้ง
4. เจดีย์ชเวมอดอว์ เมือองหงสาวดี (พะโคะ) หรือ คนพม่าเรียกบ่ะโก
5. เจดีย์ไจ๊ก์ถิโย หรือคนไทยเรียกพระธาตุอินทร์แขวนในรัฐมอญครับ
ปัจจุบันคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าพม่าแล้วนะครับ แค่มีพาสปอร์ตก็เที่ยวได้เลย อยู่ได้ 14 วัน (เริ่มเมื่อ 11 สิงหาคม 2558 ครับ) แต่ข้างล่างนี้เป็นข้อมูลเก่าปี 2557 สมัยที่ผมไปต้องขอวีซ่าครับ
หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว การเดินทางไปพม่าเราก็ต้องมีวิซ่าเข้าประเทศพม่าด้วยครับ เราจะขอเองจากสถานทูตพม่าก็ได้ หรือใช้บริการขอวิซ่าจากบริษัททัวร์ครับ ส่วนของผมใช้บริษัททัวร์กเพราะไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ หากเดินทางมาขอเองที่สถานทูตพม่าก็เสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกมากครับ
ค่าวีซ่าเข้าประเทศพม่า 810 บาทครับ เป็นวีซ่าปกติไม่ใช่วีซ่าเร่งด่วน แต่บริษัทคิดเหมาคนละ 1300 บาทครับ เพราะผมไปกัน 5 คนครับ ราคานี้รวมค่าบริการและค่าส่ง EMS คืนให้เราแล้วด้วย ผมใช้ของบริษัท วี ทราเวล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (162/1 ซอยวัดอัมพวา ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. 10700 Tel: 02 866 5657 แต่ไม่ได้รู้จักกันนะครับ ไม่ได้ค่าโฆษณานะครับ อิๆๆๆ)
หลักฐานที่ต้องเตรียมให้บริษัทตัวแทนขอวีซ่าคือ
1.Passport ตัวจริงของทุกคนที่จะขอวีซ่า
2.สำเนาทะเบียนบ้านของทุกคนที่จะขอวีซ่า (ไม่ต้องเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง)
3.รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป พื้นหลังสีขาว (แต่พื้นหลังสีฟ้าก็ใช้ได้นะครับสำหรับประเทศพม่า)
4. หลักฐานการทำงานเช่นนามบัตรครับ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ
เพื่อความถูกต้องก็ลองโทรไปถามบริษัทอีกทีนะครับ เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงทีหลัง
การยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบนี้ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ครับ เพราะฉะนั้นก่อนคุณเดินทางไปพม่าสัก 1 เดือนก็ยื่นขอวีซ่าเสียแต่เนิ่นๆนะครับ
วีซ่าที่ได้หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ครับเขาจะสแตมป์ลงในพาสปอร์ตของเรากำหนดช่วงเวลาที่เข้าออกประเทศให้เราได้ 3 เดือน (บริษัทที่เป็นตัวแทนขอวีซ่าจะถามว่าเราเดินทางวันที่เท่าไหร่ ถึงเท่าไหร่แล้วจะจัดการให้เราเองครับ) ซึ่งแน่นอนว่าครอบคลุมเวลาที่เราเดินทางครับ และถ้าเราเข้าไปเที่ยวพม่าแล้ว สามารถอยู่ในพม่าได้ 28 วันตามที่กำหนดไว้ในวีซ่านะครับ
อีกเรื่องคือ เรื่องการแลกเงินครับ เท่าที่ผมเห็นในพม่าจะให้แลกเงินได้เฉพาะตระกูล US ดอลลาร์, ยูโร, สิงคโปร์ แล้วก็เงินเยนญี่ปุ่นเท่านั้นครับ เงินไทยเขาไม่มีเรทแลก ก็ต้องใช้วิธีการแลกเงินไทยเป็นเงิน US ดอลลาร์ก่อน ไปแลกที่ซุปเปอร์ริชที่ประตูน้ำ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิร์ลด์นะครับ (เอาพาสปอร์ตไปด้วยเวลาแลกเงินที่นี่ครับ มิฉะนั้นเขาไม่ให้แลกครับ) และต้องบอกว่าของธนบัตรแบบใหม่ๆเท่านั้น ห้ามมีรอยพับ รอยยับ หรือรอยหมึกพิมพ์ขีดเขียนใดๆบนธนบัตรนะครับ ได้มาแล้วก็เก้บให้ดีห้ามยับเด็ดขาดเดี๋ยวพี่หม่องไม่รับแลกครับ
เดินทางถึงพม่าก็แลกที่สนามบินได้เลยครับ ผมเดินทางดอนเมือง - มัณฑะเลย์ ก็แลกตรงอาคารขาเข้าที่สนามบินได้เลยครับ เรทก็ 1 US ได้ 965 จั๊ตครับโดยประมาณ ได้ธนบัตรค่อนข้างใหม่ถึงใหม่มากด้วยครับ ไม่ได้เน่าตามที่ใครๆเขากล่าวกันนะครับ (มีเจอเน่าๆบ้างนิดหน่อยตามร้านขายของชำพวกธนบัตรมูลค่าน้อยๆ เช่น 50, 100, 500 จั๊ตครับ)
หน้าตาเงินพม่าเป็นแบบนี้ครับ ที่แลกมาใหม่ๆทั้งนั้นครับจากธนาคารที่สนามบินมัณฑะเลย์ครับ
เรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆผมก็ไปกัน 5 คน แลกเงินดอลลาร์เป็นเงินจั๊ตไว้ 300 US ดอลลาร์ เป็นค่ากินค่าเที่ยว ก็พออยู่ได้ครับ 9 วันพอดีครับ แต่จะต้องเผื่อส่วนอื่นไว้เป็นค่าเข้าชมสถานที่ด้วยครับ แต่หลังๆ จ่ายเป็นเงินจั๊ตก็ได้ครับ ค่าชมสถานที่ หลักๆก็เมืองมัณฑะเลย์ 10,000 จั๊ต(ประมาณ 300 กว่าบาท), เมืองพุกาม 15US, ค่าเข้าอินเล 10US, ค่าชมเจดีย์ต่างๆในหงสาวดี 10US, ค่าเข้าไจก์ถิโย(พระธาตุอินทร์แขวน) 6US, ค่าเข้าชเวดากอง 8US, ค่าเข้าเจดีย์สิเรียม 2US ครับ แต่ขอบอกว่าค่าเข้าเหล่านี้ที่อ่านจากข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาบางที่พวกเราก็ไม่ได้จ่ายครับ เพราะมันไม่มีคนมาเรียกให้เราจ่าย แต่ที่สิเรียมตอนแรกนึกว่าไม่มีใครมาเก็บแล้ว พอเราทำท่าจะกลับก็มีคนมาตามทวงให้จ่ายค่าเข้าด้วย แรงมากครับ ถ้าไม่จ่าย โดนชี้มาแล้วครับ ถ้ายังทำเนียนจะโดนเพ่งเล็งหนักขึ้นๆ จนต้องไปจ่ายเลยครับ 555 โดนกดดันหนัก แต่ไม่ได้สนับสนุนให้โกงกันนะครับ แต่ที่ไม่ได้จ่ายคือเขาไม่ได้เรียกให้เราจ่าย เลยทำเนียนได้ แต่ที่อินเลหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับยังไงก็ต้องจ่ายแน่นอนเพราะพี่เล่นตั้งป้อมหน้าทางเข้าหมู่บ้านตรงถนนเข้าเมืองหญ่าวชเวเลยครับ 10US แน่นอนครับอันนี้ ไม่จ่าย ไม่ให้เข้าครับ เอาเซ่ๆ 5555
สรุปว่าถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จ่ายไปเถิดจะเกิดผล เพราะว่าถือว่าเป็นการทำบุญสถานที่ด้วยครับ แต่ก็น่ะ แอบแพงอ่ะ หลายๆที่ก็หลายตังค์นะเนี่ย...
ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็มีค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ผมจองได้ช่วงโปรโมชั่น ดอนเมือง-มัณฑะเลย์ แล้วก็ขากลับ ย่างกุ้ง - ดอนเมือง ได้ราคา 2200 บาทครับ แต่จะแพงตรงสายการบินในประเทศกับแอร์บากันครับ เพราะผมเดินทางหลายเมือง เวลาไม่พอ ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศครับ Routeที่ผมบินคือ พุกาม(สนามบินหญ่าวอู) - อินเล(สนามบินเฮโฮ) และอีก Route คือ เฮโฮ - ย่างกุ้ง สองเที่ยวบินนี้หมดไป 8780 บาทครับ แพงมาก (ดูวิธีจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์กับแอร์บากันที่ลิงค์นี้ครับ)ค่าโรงแรมก็จองกับอโกด้า โรงแรมที่ไจ๊ก์ถิโยแพงสุดครับ แต่ทั้งทริปค่าโรงแรมหารกันเฉลี่ยตกคนละ 7500 บาทครับ ถือว่าแพงใช้ได้เลยครับ แต่ถ้ามีเวลาและไม่กลัวเหนื่อยก็เชิญนั่งรถบัสเอานะครับ 5555
ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็มีค่าตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชีย ผมจองได้ช่วงโปรโมชั่น ดอนเมือง-มัณฑะเลย์ แล้วก็ขากลับ ย่างกุ้ง - ดอนเมือง ได้ราคา 2200 บาทครับ แต่จะแพงตรงสายการบินในประเทศกับแอร์บากันครับ เพราะผมเดินทางหลายเมือง เวลาไม่พอ ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศครับ Routeที่ผมบินคือ พุกาม(สนามบินหญ่าวอู) - อินเล(สนามบินเฮโฮ) และอีก Route คือ เฮโฮ - ย่างกุ้ง สองเที่ยวบินนี้หมดไป 8780 บาทครับ แพงมาก (ดูวิธีจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์กับแอร์บากันที่ลิงค์นี้ครับ)ค่าโรงแรมก็จองกับอโกด้า โรงแรมที่ไจ๊ก์ถิโยแพงสุดครับ แต่ทั้งทริปค่าโรงแรมหารกันเฉลี่ยตกคนละ 7500 บาทครับ ถือว่าแพงใช้ได้เลยครับ แต่ถ้ามีเวลาและไม่กลัวเหนื่อยก็เชิญนั่งรถบัสเอานะครับ 5555
อีกเรื่องที่คุณจะเจอครับ คือบางสถานที่ท่องเที่ยวจะมีเด็กๆมาขอเงินคุณเช่นเจดีย์มิงกุน เจกเยอะมาก เดินตามเราเป็นกระบวนจนน่ารำคาญ คุณก็ต้องทำใจ หรือถ้าคุณจะใจดีให้ตังค์เขาก็ลองแลกแบงค์ 20 บาทไทยไปเยอะๆ แล้วไปแจกเด็กๆพวกนี้ก็ได้ครับ แต่อีกใจมาคิดถ้าไม่ให้ก็จะดีครับเพราะถาให้แล้วจะมาเป็นขบวนยิ่งกว่าเก่าแบบตื๊อไม่เลิกครับ สำหรับเจดีย์มิงกุน ผมเซ็งที่นี่ที่สุดแล้วครับ ที่อื่นก็มีเจอที่พระมหามัยมุนีครับ ไม่ใช่เด็กๆครับ แต่เป็นเณรมาขอตังค์ครับ เยอะมากๆ จะให้หรือไม่ให้ก็แล้วแต่นะครับ ถ้าสงสารก็ให้ไปเถอะครับ แต่ถ้าให้แล้วมากันเยอะๆก็รีบเดินหนีออกมาละกันครับ ไม่เป็นไร
เรื่องอาหารการกินอีกเรื่องครับ ถ้าใครกินอาหารพม่าไม่ได้ แนะนำเอาอาหารแห้งเช่นมาม่าหรืออะไรก็ได้ติดตัวไป แต่ของพวกนี้ก็มีขายครับในร้านชำ หรือตามห้างทั่วๆไปในพม่า ครับ
น้ำดื่มในพม่าขายเป็นขวดพลาสติกใสเหมือนบ้านเราครับ มั่นใจได้ในความสะอาดครับ ราคาขวดละตั้งแต่ 300 จั๊ต - 500 จั๊ต แล้วแต่สถานที่ครับ (ประมาณ 10-15 บาทไทย) เดินทางในพม่าเดือนพฤษภาคมร้อนมั่กๆครับ เหงื่อไหลทั้งวันยิ่งกว่าอบซาวน่าสปาร้อน คุณจะเสียน้ำทั้งวัน เพราะฉะนั้นน้ำดื่มซื้อติดตัว ติดกระเป่า หรือ ติดรถเอาไว้ รับรองได้ดื่มน้ำกันทั้งวันจริงๆครับขอบอก เหอๆๆๆ
สิ่งที่คุณต้องใช้และจำเป็นมากๆคือทิชชู่เปียกครับ เอาไว้เช็ดเท้า เพราะทุกที่ที่เป็นศาสนสถานต้องถอดรองเท้าหมดครับ ถุงเท้าก็ห้ามใส่ แต่เท้าคุณจะดำมากๆๆๆๆๆๆ บางที่เจอฝนตกพื้นแฉะน้ำนองพื้นผสมดินทรายดำๆเละๆ ถ้าคุณไม่รู้สึกว่ามันไม่สะอาดก็ไม่ต้องพกไปก็ได้ครับ แต่ถ้าคิดว่าต้องเช็ดเท้าถ้าเจอแบบนี้เตรียมเอาไปเยอะๆเลยครับ
มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมก็เมนท์ข้างล่างกันได้เลยครับ เดี๋ยวผมกลับมาตอบให้ครับ
สิ่งที่คุณต้องใช้และจำเป็นมากๆคือทิชชู่เปียกครับ เอาไว้เช็ดเท้า เพราะทุกที่ที่เป็นศาสนสถานต้องถอดรองเท้าหมดครับ ถุงเท้าก็ห้ามใส่ แต่เท้าคุณจะดำมากๆๆๆๆๆๆ บางที่เจอฝนตกพื้นแฉะน้ำนองพื้นผสมดินทรายดำๆเละๆ ถ้าคุณไม่รู้สึกว่ามันไม่สะอาดก็ไม่ต้องพกไปก็ได้ครับ แต่ถ้าคิดว่าต้องเช็ดเท้าถ้าเจอแบบนี้เตรียมเอาไปเยอะๆเลยครับ
มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมก็เมนท์ข้างล่างกันได้เลยครับ เดี๋ยวผมกลับมาตอบให้ครับ